สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (30 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐปรับตัวลดลงมากกว่าตัวเลขคาดการณ์ นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า การส่งออกน้ำมันของอิหร่านและเวเนซุเอลาปรับตัวลดลง
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 74 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 70.25 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค.ปีนี้ +.74 70.25
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 63 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 77.77 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับรายงานของ EIA ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 2.6 ล้านบาร์เรลในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 24 ส.ค. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 686,000 บาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเพิ่มขึ้น 370,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 837,000 บาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากรายงานข่าวที่ว่า การส่งออกน้ำมันของเวเนซุเอลาได้ดิ่งลงอย่างหนักสู่ระดับ 1 ล้านบาร์เรล/วัน อันเนื่องจากปัญหาภาวะเศรษฐกิจในประเทศ
ทางด้านอิหร่านได้ลดการส่งออกน้ำมัน เนื่องจากผลกระทบของมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐ โดยการส่งออกน้ำมันดิบและคอนเดนเสทของอิหร่านมีแนวโน้มลดลงต่ำกว่าระดับ 70 ล้านบาร์เรลในเดือนนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีที่แล้ว ก่อนถึงวันที่ 4 พ.ย.ซึ่งสหรัฐเตรียมออกมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่ออิหร่าน
ทั้งนี้ การส่งออกน้ำมันของอิหร่านเริ่มได้รับผลกระทบ จากการที่ผู้ซื้อน้ำมันพากันลดคำสั่งซื้อน้ำมันจากอิหร่านแล้ว ขณะที่ใกล้ถึงกำหนดเวลาที่สหรัฐจะทำการคว่ำบาตรน้ำมันจากอิหร่าน โดยสหรัฐเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ระงับการซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านโดยสิ้นเชิงภายในวันที่ 4 พ.ย. มิฉะนั้นจะถูกสหรัฐทำการคว่ำบาตร ซึ่งวันที่ 4 พ.ย.ถือเป็นวันครบกำหนด 180 วันนับจากวันที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านในเดือนพ.ค. และจะทำให้ปธน.ทรัมป์สามารถออกคำสั่งคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ามาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน จะส่งผลให้ปริมาณน้ำมันในตลาดลดลงราว 600,000-1,500,000 บาร์เรล