สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (5 ก.ย.) หลังจากที่พายุเฮอร์ริเคน"กอร์ดอน"ได้อ่อนกำลังลง และไม่ได้สร้างความเสียหายต่อแหล่งผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในสัปดาห์นี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ร่วงลง 1.15 ดอลลาร์ หรือเกือบ 1.7% ปิดที่ 68.72 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 90 เซนต์ หรือเกือบ 1.2% ปิดที่ 77.27 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปิดร่วงลงหลังจากที่พายุเฮอร์ริเคนกอร์ดอนได้อ่อนแรงลง และได้เคลื่อนตัวออกจากอ่าวเม็กซิโก โดยไม่ได้สร้างความเสียหายต่อแหล่งผลิตน้ำมันดังกล่าว
ขณะเดียวกันการทรุดตัวลงของสกุลเงินตุรกีและแอฟริกาใต้ยังส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจและความต้องการน้ำมันในกลุ่มตลาดเกิดใหม่
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยนายโมฮัมหมัด บาร์คินโด เลขาธิการของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ได้แสดงความกังวลว่า ความขัดแย้งทางการค้าจะส่งผลกระทบต่อุปสงค์น้ำมันในที่สุด
ทั้งนี้ สหรัฐเตรียมทำสงครามการค้ารอบใหม่กับจีนในสัปดาห์นี้ โดยแหล่งข่าวระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวกับคนสนิทของเขาว่า เขาจะทำการเรียกเก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าของจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ ทันทีที่มาตรการดังกล่าวได้ข้อสรุปจากการทำประชาพิจารณ์จากภาคส่วนต่างๆของสหรัฐในวันนี้
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐ โดยสำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดัง กล่าวในวันพรุ่งนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลล์สำรวจของเอสแอนด์พีโกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 31 ส.ค. จะลดลง 2.5 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล และคาดว่าสต็อกน้ำมันกลั่นจะทรงตัว