สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดตลาดปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (7 ก.ย.) จากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ และความวิตกเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า ซึ่งจะกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน
อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันยังพอได้แรงหนุนจากคาดการณ์ภาวะน้ำมันตึงตัวในตลาด หลังจากที่สหรัฐใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน โดยการส่งออกน้ำมันดิบและคอนเดนเสทของอิหร่านมีแนวโน้มลดลงต่ำกว่าระดับ 70 ล้านบาร์เรลในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีที่แล้ว ก่อนถึงวันที่ 4 พ.ย.ซึ่งเป็นวันที่สหรัฐเตรียมออกมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่ออิหร่าน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 2 เซนต์ ปิดที่ 67.75 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 33 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 76.83 ดอลลาร์/บาร์เรล
ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น จะลดความน่าดึงดูดของสัญญาน้ำมัน โดยทำให้สัญญามีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ดอลลาร์ดีดตัวเทียบสกุลเงินหลักๆ จากการที่สหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเกินคาด รวมทั้งตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงของแรงงานที่พุ่งสูงสุดในรอบกว่า 9 ปี ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งการขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า ซึ่งจะกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และฉุดให้อุปสงค์น้ำมันลดลง
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวเมื่อคืนนี้ว่า สหรัฐพร้อมที่จะเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2.67 แสนล้านดอลลาร์
ปธน.ทรัมป์ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐพร้อมที่จะเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมต่อสินค้านำเข้าจากจีนเมื่อใดก็ตามที่เขาต้องการ
ปธน.ทรัมป์กล่าว หลังจากผ่านพ้นกำหนดเส้นตายที่กำหนดไว้ในช่วงเที่ยงคืนวันพฤหัสตามเวลาสหรัฐ หรือเมื่อวานนี้เวลา 11.00 น.ตามเวลาไทย สำหรับการทำประชาพิจารณ์จากภาคส่วนต่างๆของสหรัฐต่อมาตรการดังกล่าว หลังการเจรจาการค้าระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนในวันที่ 22-23 ส.ค.ได้สิ้นสุดลงโดยไม่มีความคืบหน้าใดๆ ขณะที่ทั้ง 2 ฝ่ายได้เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกันคิดเป็นวงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์