สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (20 ก.ย.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาเรียกเรียกร้องให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปรับลดราคาน้ำมันลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่าสงครามการค้าอาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และฉุดอุปสงค์น้ำมันในที่สุด
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 32 เซนต์ หรือเกือบ 0.5% ปิดที่ 70.80 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 70 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 78.70 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดร่วงลงหลุดจากระดับ 71 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ทวีตข้อความเรียกร้องให้กลุ่มโอเปกปรับลดราคาน้ำมันลง
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ระบุผ่านการทวีตข้อความเมื่อวานนี้ว่า "เราได้ปกป้องประเทศในตะวันออกกลาง โดยพวกเขาจะปลอดภัยได้ไม่นาน หากปราศจากพวกเรา แต่พวกเขายังคงผลักดันราคาน้ำมันให้สูงขึ้นเรื่อยๆ เราจะจำไว้ โอเปก ซึ่งเป็นกลุ่มผูกขาด จะต้องทำให้ราคาน้ำมันลดลงเดี๋ยวนี้"
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากความกังวลที่ว่า การทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้าจะกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และฉุดให้อุปสงค์น้ำมันลดลง
อย่างไรก็ตาม การลดลงอย่างต่อเนื่องของสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐนั้น ได้สกัดแรงลบของสัญญาน้ำมันดิบในระหว่างวัน โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 2.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 14 ก.ย. สู่ระดับ 394.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2558 และเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันสัปดาห์ที่ 5
นักลงทุนจับตากลุ่มโอเปกและประเทศนอกกลุ่ม ซึ่งได้แก่ รัสเซีย จะจัดการประชุมในช่วงสุดสัปดาห์นี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับการกำหนดปริมาณการผลิตน้ำมัน