สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI และน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวขึ้นในวันนี้ โดยได้รับปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ภาวะน้ำมันตึงตัวจากการที่สหรัฐใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการที่สหรัฐลดการขุดเจาะน้ำมันติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่สอง
ณ เวลา 19.36 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 21 เซนต์ หรือ 0.29% สู่ระดับ 73.46 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 32 เซนต์ หรือ 0.39% สู่ระดับ 83.05 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากแตะระดับ 83.27 ดอลลาร์/บาร์เรลก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2557
บริษัทซิโนเปคของจีนแถลงว่า ทางบริษัทได้ลดการนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านลงครึ่งหนึ่งในเดือนนี้ โดยที่ผ่านมา จีนถือเป็นผู้ซื้อน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของอิหร่าน
การส่งออกน้ำมันของอิหร่านได้รับผลกระทบจากการที่ผู้ซื้อน้ำมันพากันลดคำสั่งซื้อน้ำมันจากอิหร่าน ขณะที่ใกล้ถึงกำหนดเวลาที่สหรัฐจะทำการคว่ำบาตรน้ำมันจากอิหร่าน โดยสหรัฐเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ระงับการซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านโดยสิ้นเชิงภายในวันที่ 4 พ.ย. มิฉะนั้นจะถูกสหรัฐทำการคว่ำบาตร ซึ่งวันที่ 4 พ.ย.ถือเป็นวันครบกำหนด 180 วันนับจากวันที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านในเดือนพ.ค. และจะทำให้ปธน.ทรัมป์สามารถออกคำสั่งคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ามาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน จะส่งผลให้ปริมาณน้ำมันในตลาดลดลงราว 600,000-1,500,000 บาร์เรล
ด้านเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนลดลงเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน โดยลดลง 3 แท่น สู่ระดับ 863 แท่นในสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากลดลง 1 แท่นในสัปดาห์ก่อนหน้านี้