สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (2 ต.ค.) หลังจากโพลล์สำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากภาวะการซื้อขายโดยรวมยังคงได้แรงหนุนจากการคาดการณ์เกี่ยวกับภาวะน้ำมันตึงตัว อันเนื่องมาจากสหรัฐใช้มาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 7 เซนต์ หรือ 0.09% ปิดที่ 75.23 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 18 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 84.80 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปิดตลาดอ่อนแรงลงหลังจากโพลล์สำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์ซึ่งจัดทำโดยเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 2.76 ล้านบาร์เรล ในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 28 ก.ย. โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบในวันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย
ขณะเดียวกันโพลล์สำรวจระบุว่า สต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 672,000 บาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงฮีทติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล จะลดลง 1.83 ล้านบาร์เรล
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากตลาดยังคงได้แรงหนุนจากสถานการณ์การผลิตน้ำมันและการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน โดยผลสำรวจล่าสุดระบุว่า การผลิตน้ำมันของอิหร่านลดลง 100,000 บาร์เรล/วันในเดือนก.ย. ขณะที่การผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เพิ่มขึ้น 90,000 บาร์เรล/วัน
ทั้งนี้ การส่งออกน้ำมันของอิหร่านได้รับผลกระทบจากการที่ผู้ซื้อน้ำมันพากันลดคำสั่งซื้อน้ำมันจากอิหร่าน ขณะที่ใกล้ถึงกำหนดเวลาที่สหรัฐจะทำการคว่ำบาตรน้ำมันจากอิหร่าน โดยสหรัฐเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ระงับการซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านโดยสิ้นเชิงภายในวันที่ 4 พ.ย. มิฉะนั้นจะถูกสหรัฐทำการคว่ำบาตร ซึ่งวันที่ 4 พ.ย.ถือเป็นวันครบกำหนด 180 วันนับจากวันที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านในเดือนพ.ค. และจะทำให้ปธน.ทรัมป์สามารถออกคำสั่งคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่
บริษัทซิโนเปคของจีนแถลงว่า ทางบริษัทได้ลดการนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านลงครึ่งหนึ่งในเดือนนี้ โดยที่ผ่านมา จีนถือเป็นผู้ซื้อน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของอิหร่าน
ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ามาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน จะส่งผลให้ปริมาณน้ำมันในตลาดลดลงราว 600,000-1,500,000 บาร์เรล