สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวลงเล็กน้อยในวันนี้ โดยถูกกดดันจากการเพิ่มขึ้นของสต็อกน้ำมันสหรัฐ และการผลิตน้ำมันของสหรัฐ
อย่างไรก็ดี ตลาดยังได้แรงหนุนจากการลดลงของการส่งออกน้ำมันจากอิหร่าน
ณ เวลา 22.35 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX ลดลง 4 เซนต์ หรือ 0.06% สู่ระดับ 71.74 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่า การผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (shale oil) ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 98,000 บาร์เรล/วันในเดือนพ.ย. แตะระดับ 7.7 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ทั้งนี้ การผลิตน้ำมันของสหรัฐได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แตะระดับ 11.2 ล้านบาร์เรล/วันในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 5 ต.ค.ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ผลการสำรวจพบว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกันในสัปดาห์ที่แล้ว โดยเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันจาก EIA และสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API)
ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวเปิดเผยว่า การส่งออกน้ำมันจากอิหร่านลดลงใกล้ระดับ 1.5 ล้านบาร์เรล/วันในช่วง 2 สัปดาห์แรกของเดือนนี้ โดยลดลงจากระดับ 2.5 ล้านบาร์เรลในเดือนเม.ย. ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เตรียมคว่ำบาตรน้ำมันอิหร่านในวันที่ 4 พ.ย.
ทั้งนี้ สหรัฐเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ระงับการซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านโดยสิ้นเชิงภายในวันที่ 4 พ.ย. มิฉะนั้นจะถูกสหรัฐทำการคว่ำบาตร ซึ่งวันที่ 4 พ.ย.ถือเป็นวันครบกำหนด 180 วันนับจากวันที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านในเดือนพ.ค. และจะทำให้ปธน.ทรัมป์สามารถออกคำสั่งคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ามาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน จะส่งผลให้ปริมาณน้ำมันในตลาดลดลงราว 500,000-2,000,000 บาร์เรล