สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (16 ต.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า มาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน รวมทั้งสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและซาอุดีอาระเบียในกรณีการหายตัวไปอย่างลึกลับของนักข่าวชาวซาอุฯนั้น จะส่งผลกระทบต่อภาวะอุปทานน้ำมันในตลาดโลก
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 14 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 71.92 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 63 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 81.41 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ยังคงได้แรงหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและซาอุฯ หลังจากนายจามาล คาช็อกกี ผู้สื่อข่าวชาวซาอุฯได้หายตัวไปอย่างลึกลับหลังเข้าไปติดต่อธุระที่สถานกงสุลซาอุฯในนครอิสตันบูล ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัปม์ ขู่ว่าสหรัฐจะใช้มาตรการลงโทษสถานหนัก หากผลการสืบสวนพบว่าซาอุฯมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ไม่ว่าจะในทางใดก็ตาม ทางด้านซาอุฯได้ออกมาขู่กลับว่า พร้อมตอบโต้สหรัฐด้วยมาตรการที่รุนแรงกว่า
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้ปัจจัยหนนุจากการคาดการณ์ที่ว่า การส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านอาจลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ก่อนที่มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่ของสหรัฐจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 พ.ย.นี้ ขณะที่รายงานระบุว่า การส่งออกน้ำมันจากอิหร่านลดลงใกล้ระดับ 1.5 ล้านบาร์เรล/วันในช่วง 2 สัปดาห์แรกของเดือนนี้ โดยลดลงจากระดับ 2.5 ล้านบาร์เรลในเดือนเม.ย.
ทั้งนี้ สหรัฐเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ระงับการซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านโดยสิ้นเชิงภายในวันที่ 4 พ.ย. มิฉะนั้นจะถูกสหรัฐทำการคว่ำบาตร ซึ่งวันที่ 4 พ.ย.ถือเป็นวันครบกำหนด 180 วันนับจากวันที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านในเดือนพ.ค. และจะทำให้ปธน.ทรัมป์สามารถออกคำสั่งคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดตลาดขยับขึ้นเพียง 0.2% เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐ หลังจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่า การผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (shale oil) ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 98,000 บาร์เรล/วันในเดือนพ.ย. แตะระดับ 7.7 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันจาก EIA ในวันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลล์สำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 1.88 ล้านบาร์รเล ในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 12 ต.ค. นอกจากนี้ คาดว่าสต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 1.52 ล้านบาร์เรล และคาดว่าสต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล