สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนเมื่อคืนนี้ (23 ต.ค.) หลังจากที่ซาอุดีอาระเบียยืนยันว่าจะรักษาเสถียรภาพตลาดน้ำมัน ซึ่งรวมถึงการเพิ่มการผลิต นอกจากนี้ การร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นทั่วโลกยังสร้างแรงกดดันต่อภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันด้วยเช่นกัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 2.93 ดอลลาร์ หรือ 4.2% ปิดที่ 66.43 อลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค.ปีนี้
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 3.39 ดอลลาร์ หรือเกือบ 4.3% ปิดที่ 76.44 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนส.ค.ปีนี้
สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจากนายคาลิด อัล-ฟาลีห์ รมว.น้ำมันซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า ซาอุดีอาระเบียหวังว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปก จะลงนามในข้อตกลงในเดือนธ.ค.เพื่อขยายความร่วมมือในการจับตา และสร้างเสถียรภาพต่อตลาดน้ำมัน นอกจากนี้ นายอัล-ฟาลีห์ยังกล่าวว่า เขาไม่ตัดความเป็นไปได้ที่ซาอุดีอาระเบียจะผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นจากระดับปัจจุบันอีก 1-2 ล้านบาร์เรล/วันในอนาคต
"หากอุปทานน้ำมันประสบภาวะชะงักงัน ขณะที่สหรัฐใกล้คว่ำบาตรอิหร่าน เราก็จะดำเนินการตามมุมมองในขณะนี้ของเราด้วยการผลิตน้ำมันเพื่อรองรับความต้องการในตลาดเพื่อให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจ" นายอัล-ฟาลีห์กล่าว
ทั้งนี้ ซาอุดีอาระเบียสามารถใช้เวลาเพียง 3 เดือนในการผลิตน้ำมันเต็มศักยภาพที่ 12 ล้านบาร์เรล/วัน หากมีความจำเป็น
นอกจากนี้ ซาอุดีอาระเบียยืนยันว่าจะไม่มีการใช้น้ำมันเป็นเครื่องมือทางการเมืองตอบโต้ชาติอื่นๆ หากซาอุดีอาระเบียถูกคว่ำบาตรกรณีการเสียชีวิตของนายจามาล คาช็อกกี นักข่าวซาอุดีอาระเบีย
ทั้งนี้ หลายประเทศมีความไม่พอใจต่อซาอุดีอาระเบีย โดยมองว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของนายคาช็อกกี และได้ตัดสินใจยกเลิกการเข้าร่วมงานประชุม Future Investment Initiative (FII) ที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย
นอกจากนี้ การร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นทั่วโลก ซึ่งรวมถึงตลาดหุ้นจีนและสหรัฐนั้น ยังสร้างแรงกดดันต่อภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันด้วยเช่นกัน โดยตลาดหุ้นจีนดิ่งลงกว่า 2% เมื่อวานนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวต่อแนวโน้มเศรษฐกิจจีน ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงกว่า 120 จุดเมื่อคืนนี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลล์สำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 3.3 ล้านบาร์รเล ในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 19 ต.ค. อย่างไรก็ตาม คาดว่าสต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล และคาดว่าสต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 2.45 ล้านบาร์เรล