สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 ต.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านจะส่งผลให้อุปทานน้ำมันในตลาดโลกตึงตัว อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง เนื่องจากความกังวลที่ว่าการร่วงลงของตลาดหุ้นทั่วโลกอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการพลังงาน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 26 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 67.59 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงราว 2.4%
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 73 เซนต์ หรือเกือบ 1% ปิดที่ 77.62 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวลงราว 2.7%
สัญญาน้ำมันดิบปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ ท่ามกลางการคาดการณ์เกี่ยวกับภาวะน้ำมันตึงตัวที่อาจเกิดจากการที่สหรัฐคว่ำบาตรอิหร่าน โดยแหล่งข่าวเปิดเผยว่า การส่งออกน้ำมันจากอิหร่านลดลงใกล้ระดับ 1.5 ล้านบาร์เรล/วันในช่วง 2 สัปดาห์แรกของเดือนนี้ โดยลดลงจากระดับ 2.5 ล้านบาร์เรลในเดือนเม.ย. ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เตรียมคว่ำบาตรน้ำมันอิหร่านในวันที่ 4 พ.ย.
ทั้งนี้ สหรัฐเรียกร้องให้ประเทศต่างๆระงับการซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านโดยสิ้นเชิงภายในวันที่ 4 พ.ย. มิฉะนั้นจะถูกสหรัฐทำการคว่ำบาตร ซึ่งวันที่ 4 พ.ย.ถือเป็นวันครบกำหนด 180 วันนับจากวันที่ปธน.ทรัมป์ประกาศถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านช่วงเดือนพ.ค. และจะทำให้ปธน.ทรัมป์สามารถออกคำสั่งคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่
สื่อต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลจีนได้สั่งการให้บริษัทพลังงานของรัฐบาลอย่างน้อย 2 แห่ง ซึ่งได้แก่ ไชน่า เนชันแนล ปิโตรเลียม คอร์ป และซิโนเปค ระงับการซื้อน้ำมันจากอิหร่านชั่วคราว ก่อนที่รัฐบาลสหรัฐจะเริ่มบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่กับอิหร่านในวันที่ 4 พ.ย.นี้ นอกจากนี้ การตัดสินใจดังกล่าวของรัฐบาลจีนมีขึ้นก่อนที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน และปธน.ทรัมป์ จะพบกันนอกรอบการประชุม G20 ที่อาร์เจนตินาในเดือนพ.ย.
ทางด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ามาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน จะส่งผลให้ปริมาณน้ำมันในตลาดลดลงราว 500,000-2,000,000 บาร์เรล