สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 พ.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 7 และสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นสวนทางกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมระหว่างสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปก ในช่วงสุดสัปดาห์นี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 54 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 61.67 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 6 เซนต์ หรือประมาณ 0.09% ปิดที่ 72.07 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปิดตลาดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 8 เมื่อคืนนี้ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 5.8 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 2 พ.ย. มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.4 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ สต็อกน้ำมันดิบยังปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน
ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2.3 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 3.5 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2.6 ล้านบาร์เรล
EIA ยังระบุด้วยว่า สหรัฐผลิตน้ำมัน 11.6 ล้านบาร์เรล/วันในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน เพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันหลังจากสำนักข่าวทาสส์ของทางการรัสเซียรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวระบุว่า รัสเซีย และซาอุดึอาระเบียกำลังหารือกันเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการลดกำลังการผลิตน้ำมันในปีหน้า
นักลงทุนจับตาการประชุมระหว่างสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปก ในช่วงสุดสัปดาห์นี้