สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นกว่า 3% ทะลุ 52 ดอลลาร์ในวันนี้ โดยฟื้นตัวขึ้น หลังจากดิ่งลงอย่างหนักในสัปดาห์ที่แล้ว
อย่างไรก็ดี ช่วงบวกของราคายังคงถูกจำกัดจากความไม่แน่นอนในการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
ณ เวลา 22.25 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนม.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 1.61 ดอลลาร์ หรือ 3.19% สู่ระดับ 52.03 ดอลลาร์/บาร์เรล
เฮดจ์ฟันด์ได้ทำการถอนเงินทุนมากกว่า 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ออกจากตลาดน้ำมันในเดือนนี้
นักลงทุนจับตากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ซึ่งอาจปรับลดกำลังการผลิต 1.4 ล้านบาร์เรล/วันในการประชุมที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียในวันที่ 6 ธ.ค.
โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะพุ่งขึ้นราว 17% ในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยได้แรงหนุนจากการประชุม G20 ในวันที่ 30 พ.ย.-1 ธ.ค.
โกลด์แมน แซคส์ระบุว่า ในการประชุม G20 ดังกล่าว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะมีโอกาสเจรจาแก้ไขความขัดแย้งทางการค้า ขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินจะสามารถหารือนโยบายการผลิตน้ำมันกับมกุฏราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน แห่งซาอุดีอาระเบีย
นายเจฟฟรี คูร์รี นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ กล่าวว่า "ความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ได้กดดันตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ในช่วงที่ผ่านมา จะมีโอกาสได้รับการแก้ไขในการประชุม G20"
โกลด์แมน แซคส์ยังคาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะดีดตัวขึ้นในปีหน้า จากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ประกาศปรับลดกำลังการผลิตในการประชุมเดือนหน้า
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิ่งลงมากกว่า 20% ในเดือนนี้ และหากราคาไม่ได้กระเตื้องขึ้นในสัปดาห์สุดท้าย ราคาน้ำมันก็จะทำสถิติร่วงลงมากที่สุดเมื่อเทียบรายเดือนในรอบกว่า 10 ปี