สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (28 พ.ย.) หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นมากกว่าตัวเลขคาดการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังถูกกดดันจากความไม่แน่นอนของการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 6 ธ.ค.นี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 1.27 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 50.29 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. ดิ่งลง 1.45 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 58.76 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 10 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 769,000 บาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล
EIA ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าลดลง 857,000 บาร์เรล แต่สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 764,000 บาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 640,000 บาร์เรล
นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันยังได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการดำเนินการของโอเปก ในการประชุมซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียในวันที่ 6 ธ.ค.นี้ หลังจากที่ซาอุดีอาระเบียส่งสัญญาณว่าจะไม่ดำเนินการแต่เพียงฝ่ายเดียวในการปรับลดกำลังการผลิต ขณะที่ไนจีเรียก็ได้ปฏิเสธที่จะให้การยืนยันการปรับลดกำลังการผลิตครั้งใหม่
นายสตีเฟน เบรนนอค จากบริษัท PVM กล่าวว่า การประชุมโอเปกในสัปดาห์หน้ายังคงมีความไม่แน่นอน และตลาดยังถูกกดดันจากปริมาณน้ำมันจำนวนมากในสหรัฐ