สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (29 พ.ย.) หลังจากนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียเปิดเผยว่า รัสเซียเต็มใจที่จะให้ความร่วมมือกับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน ในการสร้างเสถียรภาพราคาน้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. พุ่งขึ้น 1.16 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 51.45 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 75 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 59.51 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นหลังจากนายปูตินได้เปิดเผยในงานประชุมด้านการลงทุนแห่งหนึ่งเมื่อวานนี้ว่า "เรากำลังติดต่อสื่อสารกับกลุ่มโอเปก และหากจำเป็น เราก็จะร่วมมือกับกลุ่มโอเปกต่อไป" พร้อมกับกล่าวว่า เขาพอใจกับราคาน้ำมันที่ระดับ 60 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับราคาที่มีความสมดุลและเป็นธรรม
นักลงทุนจับตาการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม G20 ที่อาร์เจนตินาในวันที่ 30 พ.ย.ถึง 1 ธ.ค.นี้ โดยมีรายงานยืนยันว่า นายปูตินจะพบปะกับมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน แห่งซาอุดีอาระเบีย ในระหว่างการประชุมครั้งนี้
ส่วนทางฝั่งสหรัฐนั้น นายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐยืนยันว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ไม่มีแผนพบปะหารือนอกรอบการประชุมสุดยอด G20 ที่อาร์เจนตินา
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมโอเปกในวันที่ 6 ธ.ค.นี้ ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยมีการคาดการณ์ว่า โอเปกอาจปรับลดกำลังการผลิต 1.0-1.4 ล้านบาร์เรล/วันในการประชุมดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เริ่มมีความไม่แน่นอนต่อการดำเนินการของโอเปกในการประชุมเดือนหน้า หลังจากซาอุดีอาระเบียส่งสัญญาณว่าจะไม่ดำเนินการแต่เพียงฝ่ายเดียวในการปรับลดกำลังการผลิต ขณะที่ไนจีเรียก็ได้ปฏิเสธที่จะให้การยืนยันการปรับลดกำลังการผลิตครั้งใหม่