สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นกว่า 4% ในช่วงเช้านี้ เนื่องจากนักลงทุนขานรับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ที่บรรลุข้อตกลงเพื่อยุติข้อพิพาทการค้าชั่วคราว หลังจากที่ผู้นำทั้งสองฝ่ายได้พบปะหารือกันนอกรอบการประชุม G20 ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในวันที่ 6 ธ.ค.นี้ ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยมีการคาดการณ์ว่า โอเปกอาจปรับลดกำลังการผลิต 1.0-1.4 ล้านบาร์เรล/วันในการประชุมดังกล่าว
ณ เวลา 08.36 ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนม.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX พุ่งขึ้น 2.07 ดอลลาร์ หรือ 4.06% สู่ระดับ 53.00 ดอลลาร์/บาร์เรล
ปธน.ทรัมป์ และปธน.สี จิ้นผิง เห็นพ้องกันให้เลื่อนกำหนดระยะเวลาที่สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ออกไป 90 วัน จากกำหนดเวลาเดิมในวันที่ 1 ม.ค.2562 เพื่อเปิดทางให้ทั้งสองฝ่ายได้เดินหน้าเจรจายุติข้อพิพาทการค้าระหว่างกันต่อไป
ในแถลงการณ์ซึ่งทำเนียบขาวเผยแพร่ออกมาหลังเสร็จสิ้นการหารือระหว่างผู้นำจีน-สหรัฐ ระบุว่า กำหนดการเรียกเก็บภาษีจากจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันที่ 1 ม.ค.2562 นี้ จะถูกเลื่อนออกไป 90 วัน
"หากสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าวแล้ว ยังหาข้อตกลงกันไม่ได้ ก็จะมีการขึ้นภาษีจาก 10% เป็น 25%" ทำเนียบขาวระบุ
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ และปธน.สีได้พูดคุยกันระหว่างการรับประทานอาหารค่ำที่กรุงบัวโนสไอเรสของอาร์เจนตินาในช่วงค่ำวันเสาร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่จากรัฐบาลจีนได้ออกมาเปิดเผยว่า วาระสำคัญที่จีนจะหยิบยกขึ้นมาหารือกันสหรัฐ คือการโน้มน้าวให้รัฐบาลสหรัฐ ยอมระงับแผนปรับขึ้นภาษีนำเข้าอีก 15% ต่อสินค้าจีนในวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์