สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดในแดนลบเมื่อคืนนี้ (14 ธ.ค.) หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีน ซึ่งสร้างความวิตกเกี่ยวกับความต้องการใช้น้ำมันของจีน
นอกจากนี้ การแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐยังเป็นปัจจัยกดดันการซื้อขายด้วย เพราะเมื่อดอลลาร์แข็งค่า ราคาสัญญาน้ำมันดิบที่ซื้อขายด้วยเงินดอลลาร์จะมีราคาสูงขึ้นและน่าดึงดูดใจลดลงสำหรับผู้ถือเงินสกุลอื่น ๆ
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 1.38 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 51.2 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 1.17 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 60.28 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนได้กลับมามีความวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจอีกครั้ง หลังจีนได้เปิดเผยตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรม และยอดค้าปลีกที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ท่ามกลางการทำสงครามการค้ากับสหรัฐ ทั้งยังทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
นอกจากนี้ ตัวเลขการกลั่นน้ำมันของจีนได้ลดลงในเดือนพ.ย. ซึ่งสะท้อนถึงการชะลอตัวของอุปสงค์น้ำมันด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ ในการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สมาชิก 15 ชาติของโอเปกบรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 800,000 บาร์เรล/วัน ขณะที่ผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกจะปรับลดกำลังการผลิต 400,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งจะทำให้มีการปรับลดกำลังการผลิตรวม 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือนม.ค.ปีหน้า