สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดิ่งลงกว่า 1% ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนกังวลต่อการที่สหรัฐเพิ่มการผลิตน้ำมัน ท่ามกลางอุปสงค์ที่อ่อนแอ
ณ เวลา 21.24 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.พ. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX ลดลง 87 เซนต์ หรือ 1.66% สู่ระดับ 51.44 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่า สหรัฐมีแนวโน้มผลิตน้ำมันมากกว่า 12 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ และจะเป็นประเทศที่ส่งออกน้ำมันสุทธิในปี 2563
นักวิเคราะห์ระบุว่า ราคาน้ำมันยังคงถูกกดดันจากการไร้ความชัดเจนของผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน, ปัจจัยทางการเมืองในสหรัฐ รวมทั้งความอ่อนแอของเศรษฐกิจจีน
กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ออกรายงานประจำเดือนม.ค.ระบุว่า การผลิตน้ำมันของโอเปกลดลง 751,000 บาร์เรล/วันในเดือนธ.ค. สู่ระดับ 31.6 ล้านบาร์เรล/วัน
เมื่อเดือนที่แล้ว โอเปกและกลุ่มประเทศนอกโอเปก นำโดยรัสเซีย เห็นพ้องกันที่จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1.2 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนนี้ เพื่อป้องกันการทรุดตัวของราคาน้ำมัน
ซาอุดีอาระเบียเป็นผู้นำในการปรับลดการผลิตของโอเปก โดยลดลง 468,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 10.5 ล้านบาร์เรล/วัน และซาอุดีอาระเบียมีเป้าหมายในการปรับลดการผลิตลงสู่ระดับ 10.2 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนนี้
ขณะเดียวกัน การผลิตน้ำมันของลิเบียลดลง 172,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ to 928,000 บาร์เรล/วัน ส่วนการผลิตน้ำมันของอิหร่านลดลง 159,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับต่ำกว่า 2.8 ล้านบาร์เรล/วัน และขณะนี้อิหร่านกลายเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันมากเป็นอันดับ 5 ของโอเปก จากเดิมอยู่ที่อันดับ 3 โดยได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ
อย่างไรก็ดี การผลิตน้ำมันของอิรักเพิ่มขึ้น 88,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับมากกว่า 4.7 ล้านบาร์เรล/วัน และเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันมากเป็นอันดับ 2 ของโอเปก
นอกจากนี้ โอเปกคาดว่า อุปสงค์น้ำมันของโอเปกจะอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 30.8 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ โดยลดลงราว 900,000 บาร์เรล/วันเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขณะที่คาดว่าการบริโภคน้ำมันทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 1.29 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับมากกว่า 100 ล้านบาร์เรล/วัน
รายงานระบุว่า การผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศนอกโอเปกจะเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งมากกว่าการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์น้ำมัน