สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ม.ค.) หลังจากสหรัฐขู่ว่าจะคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของเวเนซุเอลา ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลให้เกิดภาวะอุปทานน้ำมันตึงตัวในตลาดโลก โดยข่าวดังกล่าวได้บดบังรายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 56 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 53.69 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 55 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 61.64 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากรัฐบาลสหรัฐขู่ว่าจะคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของเวเนซุเอลา ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองที่ย่ำแย่ หลังจากสหรัฐให้การยอมรับนายฮวน กุยโด ประธานสมัชชาแห่งชาติและผู้นำพรรคฝ่ายค้านของเวเนซุเอลา ในฐานะประธานาธิบดีชั่วคราวของเวเนซุเอลา
นายนิโคลัส มาดูโร ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา ได้ประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตและการเมืองกับสหรัฐ พร้อมกับสั่งให้เจ้าหน้าที่ทูตและกงสุลของสหรัฐทุกคนออกจากประเทศภายใน 72 ชั่วโมง และกล่าวโทษรัฐบาลสหรัฐว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังแผนการดังกล่าวเพื่อสร้างรัฐบาลหุ่นเชิดในเวเนซุเอลา
นอกจากนี้ นายมาดูโรยังประกาศสั่งปิดสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลที่ตั้งอยู่ในสหรัฐ โดยระบุว่า นักการทูตของเวเนซุเอลาจะเดินทางกลับประเทศโดยเร็วที่สุดภายในไม่เกินวันเสาร์นี้ และรัฐบาลเตรียมจัดงานต้อนรับอย่างสมเกียรติ
ทั้งนี้ สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้น 8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 18 ม.ค. ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ในโพลล์สำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจะลดลง 600,000 บาร์เรล