สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ก.พ.) ขานรับมุมมองบวกที่ว่า สหรัฐและจีนจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้า นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงหนุนจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปรับลดการผลิตในเดือนม.ค.
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 80 เซนต์ หรือ 1.5% ปิดที่ 53.90 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 1.19 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 63.61 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย. 2561
สัญญาน้ำมันดิบปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนมีความหวังเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยนายโรเบิร์ต ไลท์ไทเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ จะเข้าร่วมเจรจากับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีน ซึ่งรวมถึงนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน ที่กรุงปักกิ่ง ในวันที่ 14-15 ก.พ.นี้
ทั้งนี้ นักลงทุนคาดว่า สหรัฐและจีนจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้า หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายมนูชิน ต่างก็ส่งสัญญาณในด้านบวกว่า การเจรจาการค้ากับจีนเป็นไปด้วยดี นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ยังกล่าวว่า เขาจะพิจารณาเลื่อนกำหนดเส้นตายในการบรรลุข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนจากเดิมในวันที่ 1 มี.ค.ออกไป หากคณะเจรจาของสหรัฐและจีนสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าในไม่ช้า
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้รับแรงหนุนหลังจากโอเปกเปิดเผยรายงานประจำเดือนก.พ. ซึ่งระบุว่า การผลิตน้ำมันของโอเปกลดลง 797,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 30.806 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนม.ค. ซึ่งเทียบเท่ากับการปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตราว 86% ขณะที่ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นผู้นำในการปรับลดการผลิตของโอเปก ประกาศว่าจะลดการผลิตสู่ระดับ 9.8 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนหน้า โดยลดลงมากกว่า 500,000 บาร์เรล/วันจากที่มีการสัญญาไว้ในช่วงแรก
โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะแตะระดับสูงสุดที่ 67.50 ดอลลาร์/บาร์เรลในไตรมาส 2 หลังจากที่พยายามดีดตัวเหนือระดับ 64 ดอลลาร์นับตั้งแต่ที่ดิ่งลงอย่างมากในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว โดยการคาดการณ์ดังกล่าวพิจารณาจากมุมมองที่ว่า การขยายตัวของอุปสงค์จะเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้ ขณะที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ใช้มาตรการปรับลดกำลังการผลิตลงอย่างมากเพื่อลดปริมาณน้ำมันในตลาด
ขณะเดียวกัน โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันจะมีการขยายตัว 1.4 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) แต่สูงกว่าที่โอเปกและนักวิเคราะห์จากตลาดวอลล์สตรีทคาดการณ์ที่ระดับ 1.24 ล้านบาร์เรล/วัน