สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (26 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะเดินหน้าปรับลดกำลังการผลิตต่อไป แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พยายามกดดันให้ราคาน้ำมันปรับตัวลงก็ตาม ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ขยับขึ้น 2 เซนต์ หรือไม่ถึง 0.05% ปิดที่ 55.50 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 45 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 65.21 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักในวันจันทร์ อันเนื่องมาจากข่าวที่ว่า ปธน.ทรัมป์ได้ออกมาเรียกร้องให้กลุ่มโอเปกระงับการปรับขึ้นราคาน้ำมัน โดยทรัมป์ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน พร้อมระบุว่าโลกไม่สามารถรับมือกับราคาน้ำมันที่สูงขึ้นได้
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังเชื่อว่า โอเปกจะเดินหน้าปรับลดกำลังการผลิตต่อไปแม้ถูกกดดันจากปธน.ทรัมป์ก็ตาม ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมโอเปกในวันที่ 17-18 เม.ย.นี้ เพื่อดูสัญญาณการปรับลดกำลังการผลิตของโอเปกและประเทศพันธมิตรในช่วงครึ่งปีหลัง
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ซึ่งรายงานโดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐในวันนี้ เวลา 23.00 น.ตามเวลาไทย ขณะนักวิเคราะห์ในโพลล์สำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะพุ่งขึ้น 3.5 ล้านบาร์เรล ในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 22 ก.พ. ขณะเดียวกันคาดว่าสต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงฮีทติ้งออยล์และน้ำมันดีเซลนั้น จะลดลง 2.5 ล้านบาร์เรล