สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ร่วงลงในสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ปิดตลาดปรับตัวลง หลังจากทางการจีนเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตชะลอตัวลงในเดือนก.พ.
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 28 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 57.22 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 36 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 66.03 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐดิ่งลง 8.6 ล้านบาร์เรลในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 22 ก.พ. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.8 ล้านบาร์เรล ขณะที่สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 4.2 ล้านบาร์เรลในช่วงสัปดาห์ดังกล่าว
EIA ยังระบุว่า สต็อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 300,000 บาร์เรล น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะร่วงลง 2.5 ล้านบาร์เรล
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ปิดตลาดอ่อนแรงลง หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานเมื่อวานนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.พ.ของจีนอยู่ที่ระดับ 49.2 ซึ่งลดลงจากระดับ 49.5 ในเดือนม.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ซึ่งอยู่ที่ระดับ 49.5 นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายโดยรวมของตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากรายงานของ EIA ซึ่งระบุว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 22 ก.พ. อยู่ที่ระดับ 12.1 ล้านบาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 1 แสนบาร์เรล/วัน จากสัปดาห์ก่อนหน้านั้น