สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อยในวันนี้ โดยถูกกดดันจากการที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจยูโรโซนในปีนี้
ณ เวลา 23.33 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนเม.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 16 เซนต์ หรือ 0.28% สู่ระดับ 56.38 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทั้งนี้ ECB ประกาศปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจยูโรโซนในปีนี้ สู่ระดับ 1.1% จากเดิมที่คาดการณ์ในเดือนธ.ค.ปีที่แล้วว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 1.7%
ทางด้านนายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB กล่าวว่า ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภูมิรัฐศาสตร์, ภัยคุกคามจากมาตรการกีดกันทางการค้า และความเปราะบางของตลาดเกิดใหม่ ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ เศรษฐกิจยูโรโซนเผชิญกับภาวะซบเซาตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมืองในอิตาลี, ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการที่อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) และการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ส่งผลให้เศรษฐกิจยูโรโซนมีการขยายตัวต่ำที่สุดในรอบ 4 ปีในปีที่แล้ว ขณะที่องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) คาดว่ายูโรโซนจะมีการขยายตัวเพียง 1% ในปีนี้
นอกจากนี้ ตลาดยังมีปัจจัยลบจากการที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้น 7.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.2 ล้านบาร์เรล
สหรัฐผลิตน้ำมัน 12.1 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
การผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐได้หักล้างความพยายามของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศพันธมิตรในการปรับลดกำลังการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังคงรอความชัดเจนของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
แหล่งข่าวระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กำลังพยายามอย่างหนักเพื่อให้สหรัฐและจีนสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้า เนื่องจากเขาหวังว่า การบรรลุข้อตกลงดังกล่าวจะส่งผลให้ตลาดหุ้นทะยานขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ของเขาในปีหน้า
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ปธน.ทรัมป์ต้องการให้ตลาดหุ้นพุ่งขึ้น ขณะที่เขาจะลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ซึ่งเขามองว่าการบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับจีนจะช่วยให้เขาคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีหน้า
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ปธน.ทรัมป์มีความกังวลว่าการไร้ข้อตกลงทางการค้ากับจีนจะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น หลังจากที่ราคาหุ้นพุ่งขึ้นก่อนหน้านี้ จากการคาดการณ์เกี่ยวกับความคืบหน้าของการเจรจาการค้า
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า สหรัฐอาจยกเลิกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเกือบทุกรายการที่ได้บังคับใช้กับจีนตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยคาดว่าผู้นำของทั้งสองประเทศอาจจะบรรลุข้อตกลงการค้าอย่างสมบูรณ์ในการประชุมวันที่ 27 มี.ค.นี้
วอลล์สตรีท เจอร์นัล ระบุว่า สหรัฐและจีนกำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการทำข้อตกลงการค้า โดยจีนเสนอที่จะปรับลดภาษีนำเข้า และผ่อนคลายกฎระเบียบด้านการนำเข้าสินค้าเกษตร เคมีภัณฑ์ รถยนต์ และสินค้าอื่นๆจากสหรัฐ