สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นกว่า 2% ทะลุ 58 ดอลลาร์ในวันนี้ หลังมีการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงสวนทางคาดการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว
ณ เวลา 22.02 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนเม.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 1.15 ดอลลาร์ หรือ 2.02% สู่ระดับ 58.02 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 3.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรล
EIA ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 4.6 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าลดลง 3.5 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 400,000 บาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าลดลง 2.5 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่ซาอุดีอาระเบียมีแผนที่จะเพิ่มการปรับลดกำลังการผลิตในเดือนหน้า ขณะที่เวเนซุเอลาลดการส่งออกน้ำมัน เนื่องจากประสบปัญหาไฟฟ้าดับทั่วประเทศ
เจ้าหน้าที่ซาอุดีอาระเบียกล่าวว่า ซาอุดีอาระเบียมีแผนที่จะปรับลดกำลังการผลิตให้ต่ำกว่าระดับที่กำหนดไว้ในเดือนหน้า โดยจะต่ำกว่าระดับ 10 ล้านบาร์เรล/วัน
กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) มีกำหนดจัดการประชุมเพื่อพิจารณานโยบายการผลิตน้ำมันในวันที่ 17-18 เม.ย. และ 25-26 มิ.ย.
เมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว โอเปกและกลุ่มประเทศนอกโอเปก นำโดยรัสเซีย เห็นพ้องกันที่จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1.2 ล้านบาร์เรล/วันเพื่อป้องกันการทรุดตัวของราคาน้ำมัน
นายคาลิด อัล-ฟาลีห์ รมว.พลังงานของซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า เป็นการเร็วเกินไปที่โอเปกจะทำการเปลี่ยนแปลงนโยบายการผลิตน้ำมันในการประชุมเดือนหน้า
ทางด้านบริษัท PDVSA ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัฐบาลเวเนซุเอลา ยังคงไม่สามารถส่งออกน้ำมันได้ นับตั้งแต่ที่เวเนซุเอลาประสบปัญหาไฟฟ้าดับทั่วประเทศตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว