สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (19 มี.ค.) หลังจากผลสำรวจของนักวิเคราะห์ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบ WTI ขยับลงเพียงเล็กน้อย ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบปิดตลาดในแดนบวก เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับปัจจัยการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 6 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 59.03 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 7 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 67.61 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดขยับลงหลังจากผลสำรวจของนักวิเคราะห์ในโพลล์เอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรลในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 15 มี.ค. ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นคาดว่าจะลดลงรายการละ 2.1 ล้านบาร์เรล
ทั้งนี้ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบในวันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย
อย่าไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายโดยรวมในตลาดน้ำมันยังคงได้รับปัจจัยหนุนหลังจากกลุ่มโอเปกประกาศยกเลิกการประชุมในวันที่ 17-18 เม.ย. ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่า โอเปกและประเทศพันธมิตรยังคงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันต่อไปจนกว่าจะถึงการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตในวันที่ 25-26 มิ.ย.
นายคาลิด อัล-ฟาลีห์ รมว.พลังงานของซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า การที่โอเปกยกเลิกการประชุมในเดือนเม.ย. เนื่องจากคาดการณ์ว่าตลาดน้ำมันจะยังคงประสบกับภาวะน้ำมันล้นตลาดในช่วงครึ่งปีแรกนี้ ขณะเดียวกันการเลื่อนการประชุมดังกล่าวจะทำให้ผู้ผลิตน้ำมันสามารถประเมินผลกระทบจากการที่สหรัฐทำการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของอิหร่านและเวเนซุเอลา
นอกจากนี้ นายคาลิด อัล-ฟาลีห์ ยังกล่าวด้วยว่า กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันจำเป็นต้องปรับลดกำลังการผลิตต่อไปจนถึงช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากสต็อกน้ำมันยังคงเพิ่มขึ้น
เมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว โอเปกและกลุ่มประเทศนอกโอเปก นำโดยรัสเซีย เห็นพ้องกันที่จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1.2 ล้านบาร์เรล/วันเพื่อป้องกันการทรุดตัวของราคาน้ำมัน