สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากความไม่สงบในลิเบีย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันในประเทศ
ณ เวลา 18.31 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 8 เซนต์ หรือ 0.12% สู่ระดับ 64.48 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากพุ่งแตะ 64.77 ดอลลาร์ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว
ที่ผ่านมา ลิเบียผลิตน้ำมันราว 1.1 ล้านบาร์เรล/วัน คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1% ของปริมาณน้ำมันในตลาดโลก
สถานการณ์ในลิเบียยังคงตึงเครียด โดยสหประชาชาติ (UN) เปิดเผยว่า ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตพุ่งแตะ 47 ราย และบาดเจ็บ 181 ราย
UN ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้มีการสงบศึกชั่วคราว เพื่อเปิดทางให้มีการอพยพผู้คนออกจากพื้นที่สู้รบ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังเกิดเหตุการณ์สู้รบใกล้กับกรุงทริโปลี เมืองหลวงของลิเบีย ระหว่างกองกำลังของรัฐบาลลิเบีย และกองกำลังที่จงรักภักดีต่อพลเอกคาลีฟา ฮัฟตาร์ ผู้นำกองทัพแห่งชาติลิเบีย (LNA)
นายฟาเอซ อัล เซอร์ราจ นายกรัฐมนตรีลิเบีย ได้กล่าวหาว่า พลเอกคาลีฟา พยายามที่จะก่อรัฐประหาร และกองกำลังกบฎจะต้องถูกปราบปราม
ทั้งนี้ เสถียรภาพทางการเมืองลิเบียตกอยู่ในภาวะสั่นคลอนนับตั้งแต่ที่พันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี ถูกโค่นอำนาจและสังหารเมื่อปี 2554
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้น 5 สัปดาห์ติดต่อกัน โดยได้ปัจจัยหนุนจากการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) รวมทั้งการที่สหรัฐทำการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน และเวเนซุเอลา
ผลการสำรวจพบว่า ปริมาณน้ำมันจากกลุ่มประเทศโอเปกลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปีในเดือนมี.ค. จากการที่ซาอุดีอาระเบียลดการผลิตน้ำมันมากกว่าที่ตกลงกันไว้
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากคาดการณ์ความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งจะช่วยหนุนความต้องการใช้น้ำมันของประเทศทั้งสอง