สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ร่วงลงกว่า 1% หลุด 64 ดอลลาร์ในวันนี้ แต่ราคายังคงได้รับปัจจัยหนุนจากภาวะตึงตัวในตลาดน้ำมัน จากการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)
ณ เวลา 22.11 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX ลดลง 76 เซนต์ หรือ 1.18% สู่ระดับ 63.85 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทั้งนี้ การผลิตน้ำมันของโอเปกได้ลดลงกว่า 500,000 บาร์เรลในเดือนมี.ค. แตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี ขณะที่ซาอุดีอาระเบียยังคงปรับลดกำลังการผลิต และเวเนซุเอลาลดการผลิตน้ำมัน เนื่องจากประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ
การผลิตน้ำมันของโอเปกได้ลดลง 534,000 บาร์เรลในเดือนมี.ค. สู่ระดับ 30.02 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2558 ซึ่งขณะนั้น โอเปกมีการผลิตน้ำมัน 29.97 ล้านบาร์เรล/วัน
เมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว โอเปกและกลุ่มประเทศนอกโอเปก นำโดยรัสเซีย เห็นพ้องกันที่จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1.2 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงเดือนมิ.ย.ปีนี้ เพื่อป้องกันการทรุดตัวของราคาน้ำมัน
ส่วนในปีนี้ การผลิตน้ำมันของโอเปกและประเทศพันธมิตรได้ลดลงมากกว่า 1.5 ล้านบาร์เรล/วัน ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้น 30%
ซาอุดีอาระเบียปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 324,000 บาร์เรล/วันในเดือนมี.ค. สู่ระดับ 9.8 ล้านบาร์เรล/วัน ส่วนเวเนซุเอลาลดกำลังการผลิตน้ำมัน 289,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 732,000 บาร์เรล/วัน
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยหนุนจากความไม่สงบในลิเบีย รวมทั้งการที่สหรัฐทำการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน และเวเนซุเอลา
ขณะเดียวกัน การที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินดิ่งลงในสัปดาห์ที่แล้ว แม้ว่าสต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้น ก็ได้เป็นปัจจัยบวกต่อตลาด
EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้น 7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.8 ล้านบาร์เรล
EIA ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินดิ่งลง 7.7 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล
สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 100,000 บาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล