สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการที่บริษัทเชฟรอน ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสหรัฐ ประกาศแผนเข้าซื้อกิจการอนาดาร์โค ปิโตรเลียม วงเงิน 3.3 หมื่นล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ แนวโน้มผลผลิตน้ำมันที่ตึงตัวทั่วโลก ยังช่วยหนุนราคาน้ำมันขึ้นด้วย
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 31 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 63.89 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 72 เซนต์ หรือ 1.02% ปิดที่ 71.55 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดปรับตัวขึ้นรับข่าวเชฟรอนซื้อกิจการอนาดาร์โค ปิโตรเลียม โดยเชฟรอนหวังว่าการซื้อกิจการอนาดาร์โค จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (shale oil) รวมทั้งก๊าซธรรมชาติ
อนาดาร์โค ปิโตรเลียม เป็นบริษัทด้านการสำรวจและผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศพันธมิตรของโอเปก ปรับลดการผลิตน้ำมันลงอย่างต่อเนื่อง
สำนักงานพลังงานสากล (IEA) เปิดเผยว่า การผลิตน้ำมันของโอเปกในเดือนมี.ค. ต่ำกว่าในเดือนพ.ย.ที่ผ่านมาอยู่ 2.2 ล้านบาร์เรล/วัน และมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการผลิตน้ำมันของลิเบียท่ามกลางความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นในประเทศ
ส่วนการผลิตน้ำมันของประเทศนอกกลุ่มโอเปกในไตรมาสแรกของปีนี้ ลดลง 0.7 ล้านบาร์เรล/วัน เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2561
ในเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว โอเปกและประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ รวมถึงรัสเซีย ได้ยืนยันที่จะปรับลดการผลิตน้ำมันลง 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน เพื่อหนุนราคาน้ำมัน ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนม.ค.ปีนี้
โอเปกและประเทศพันธมิตรคาดว่าจะประชุมกันเดือนมิ.ย.นี้ เพื่อตัดสินใจว่าจะยังคงลดการผลิตน้ำมันต่อไปหรือไม่