สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 เม.ย.) หลังจากเบเกอร์ ฮิวจ์ เปิดเผยรายงานล่าสุดว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐมีจำนวนลดลงในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลงสวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 24 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 64.00 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 35 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 71.97 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจากเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนลดลง 8 แท่น สู่ระดับ 825 แท่นในช่วงสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 18 เม.ย.
ทั้งนี้ เบเกอร์ ฮิวจ์ ได้รายงานข้อมูลดังกล่าวเร็วกว่ากำหนด 1 วัน เนื่องจากตลาดน้ำมันนิวยอร์กจะปิดทำการในวันศุกร์ที่ 19 เม.ย.เนื่องในวัน Good Friday
ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 1.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ รายงานของ EIA ระบุว่า สหรัฐนำเข้าน้ำมันดิบเฉลี่ยวันละ 6.0 ล้านบาร์เรลเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ลดลง 607,000 บาร์เรลต่อวันเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้านั้น
นักลงทุนจับตาภาวะอุปทานน้ำมันในตลาดโลก เนื่องจากข้อตกลงการปรับลดการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และกลุ่มผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก จะหมดอายุลงในเดือนมิ.ย.นี้
ทั้งนี้ เมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว โอเปกและกลุ่มประเทศนอกโอเปก นำโดยรัสเซีย เห็นพ้องกันที่จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1.2 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงเดือนมิ.ย.ปีนี้ เพื่อป้องกันการทรุดตัวของราคาน้ำมัน
โอเปกจะจัดการประชุมในเดือนมิ.ย.เพื่อทบทวนนโยบายการผลิตน้ำมัน ซึ่งแม้ซาอุดีอาระเบียมีแนวโน้มที่จะเดินหน้าปรับลดกำลังการผลิตต่อไป แต่แหล่งข่าวระบุว่า ซาอุดีอาระเบียอาจตัดสินใจเพิ่มการผลิตตั้งแต่เดือนก.ค. หากยังคงมีปัญหาการผลิตน้ำมันจากประเทศอื่นๆ