สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (22 เม.ย.) หลังจากมีรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐเตรียมประกาศยกเลิกคำสั่งผ่อนผันให้ 8 ประเทศนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ซึ่งหน่วยงานของสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 1.70 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 65.70 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 2.07 ดอลลาร์ หรือ 2.9% ปิดที่ 74.04 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นหลังจากหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ รายงานว่า รัฐบาลสหรัฐเตรียมประกาศยกเลิกคำสั่งผ่อนผันให้ 8 ประเทศนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน พร้อมกับเตือนว่า หากประเทศเหล่านี้ยังคงนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน ก็จะถูกสหรัฐคว่ำบาตร
รายงานข่าวระบุว่า นายไมค์ ปอมเปโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐ จะเป็นผู้ประกาศยกเลิกคำสั่งผ่อนผันดังกล่าว โดยจะมีผลอย่างเป็นทางการในวันที่ 2 พ.ค.
ทั้งนี้ เมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว สหรัฐได้บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน โดยมีผลต่อภาคธุรกิจพลังงาน ธนาคาร การต่อเรือ และการเดินเรือ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะกดดันให้อิหร่านยกเลิกโครงการนิวเคลียร์ รวมทั้งยุติการสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธในตะวันออกกลาง อย่างไรก็ดี รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศผ่อนผันให้ 8 ประเทศยังคงสามารถนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านได้เป็นเวลา 6 เดือน โดยประเทศดังกล่าว ได้แก่ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ตุรกี อิตาลี และกรีซ
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากภาวะตึงตัวในตลาดน้ำมัน จากการลดลงของสต็อกน้ำมันสหรัฐ, การปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) รวมทั้งการที่สหรัฐทำการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของเวเนซุเอลา
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย