สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดิ่งลงอย่างต่อเนื่องในวันนี้ โดยล่าสุดทรุดตัวลงกว่า 3% ใกล้หลุดระดับ 63 ดอลลาร์ หลังมีข่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้แจ้งให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ทำการปรับลดราคาน้ำมัน
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการคาดการณ์ว่า สมาชิกบางรายของโอเปกจะเพิ่มการผลิตน้ำมัน เพื่อชดเชยการขาดหายไปของน้ำมันอิหร่านในตลาดโลก อันเนื่องจากการคว่ำบาตรของสหรัฐ
ณ เวลา 21.34 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX ลดลง 2.07 ดอลลาร์ หรือ 3.17% สู่ระดับ 63.14 ดอลลาร์/บาร์เรล
หากราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวขึ้นในสัปดาห์นี้ ก็จะทำสถิติดีดตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 8 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ครึ่งปีแรกของปี 2558
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวในวันนี้ว่า เขาได้สนทนาทางโทรศัพท์กับกลุ่มประเทศโอเปก และแจ้งให้โอเปกดำเนินการเพื่อทำให้ราคาน้ำมันลดลง ซึ่งก็ได้ทำให้ราคาน้ำมันเบนซินลดลงในสหรัฐ
"ราคาน้ำมันเบนซินกำลังปรับตัวลง หลังจากที่ผมได้แจ้งต่อโอเปกว่า พวกคุณต้องทำให้ราคาน้ำมันลดลง ซึ่งก็ทำให้ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวลง" ปธน.ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าว
อย่างไรก็ดี ผลการตรวจสอบพบว่า ราคาน้ำมันเบนซินสูตรธรรมดาในสหรัฐมีราคาเฉลี่ย 2.883 ดอลลาร์/แกลลอน สูงกว่าระดับ 2.877 ดอลลาร์เมื่อวานนี้ และสูงกว่าระดับ 2.839 ดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
เมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว สหรัฐได้บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน โดยมีผลต่อภาคธุรกิจพลังงาน ธนาคาร การต่อเรือ และการเดินเรือ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะกดดันให้อิหร่านยกเลิกโครงการนิวเคลียร์ รวมทั้งยุติการสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธในตะวันออกกลาง อย่างไรก็ดี รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศผ่อนผันให้ 8 ประเทศยังคงสามารถนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านได้เป็นเวลา 6 เดือน โดยประเทศดังกล่าว ได้แก่ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ตุรกี อิตาลี และกรีซ
อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากภาวะตึงตัวในตลาดน้ำมัน จากการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศโอเปก รวมทั้งการที่สหรัฐทำการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของเวเนซุเอลา