สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (30 เม.ย.) หลังจากซาอุดีอาระเบียได้สนับสนุนให้มีการขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ไปจนถึงสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ สถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองในเวเนซุเอลายังเป็นปัจจัยหนุนตลาดน้ำมันเช่นกัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 41 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 63.91 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 76 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 72.80 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนตลอดทั้งเดือนเม.ย. สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 6.3% และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวขึ้น 6.5%
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นหลังจากนายคาลิด อัล-ฟาลีห์ รมว.พลังงานของซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า ซาอุดีอาระเบียให้การสนับสนุนการขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศโอเปกไปจนถึงสิ้นปีนี้ จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในเดือนมิ.ย.
ทั้งนี้ เมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว โอเปกและกลุ่มประเทศนอกโอเปก นำโดยรัสเซีย เห็นพ้องกันที่จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1.2 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงเดือนมิ.ย.ปีนี้ เพื่อป้องกันการทรุดตัวของราคาน้ำมัน
ส่วนสถานการณ์ในเวเนซุเอลานั้น นายฮวน กุยโด ประธานสมัชชาแห่งชาติและผู้นำพรรคฝ่ายค้านของเวเนซุเอลา ได้ออกมาเรียกร้องให้กองทัพให้การสนับสนุนเขา เพื่อยุติการปกครองของนายนิโคลัส มาดูโร ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา
ทางด้านรัฐบาลเวเนซุเอลายืนยันว่า กองทัพยังคงให้การสนับสนุนรัฐบาล พร้อมกับโต้ข่าวลือที่ว่ากองทัพเตรียมก่อการรัฐประหาร
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่ผลสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์ซึ่งจัดทำโดยเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 26 เม.ย. เพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล แต่คาดว่าสต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 1 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล