สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดิ่งลงกว่า 1% ใกล้หลุดระดับ 63 ดอลลาร์ในวันนี้ หลังสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2560
ณ เวลา 22.45 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX ลดลง 75 เซนต์ หรือ 1.17% สู่ระดับ 63.16 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้น 9.9 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 470.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2560 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.5 ล้านบาร์เรล
ส่วนสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 6.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
EIA ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 917,000 บาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าลดลง 1 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าลดลง 193,000 บาร์เรล
อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันได้แรงหนุนจากความวุ่นวายทางการเมืองในเวเนซุเอลา และการที่ซาอุดีอาระเบียสนับสนุนให้มีการขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ไปจนถึงสิ้นปีนี้
นายคาลิด อัล-ฟาลีห์ รมว.พลังงานของซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า ซาอุดีอาระเบียให้การสนับสนุนการขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศโอเปกไปจนถึงสิ้นปีนี้ จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในเดือนมิ.ย.
ทั้งนี้ เมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว โอเปกและกลุ่มประเทศนอกโอเปก นำโดยรัสเซีย เห็นพ้องกันที่จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1.2 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงเดือนมิ.ย.ปีนี้ เพื่อป้องกันการทรุดตัวของราคาน้ำมัน
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับปัจจัยบวกจากภาวะตึงตัวในตลาดน้ำมัน จากการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศโอเปก รวมทั้งการที่สหรัฐทำการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของเวเนซุเอลา และการที่สหรัฐยกเลิกการผ่อนผันสำหรับ 8 ประเทศในการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน