สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 พ.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐร่วงลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่านอาจส่งผลให้อุปทานน้ำมันในตลาดโลกอยู่ในภาวะตึงตัว
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 72 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 62.12 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 49 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 70.37 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจาก EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 3 พ.ค. ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล
รายงานของ EIA ยังระบุว่า สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 596,000 บาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 434,000 บาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 159,000 บาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่าน โดยรายงานล่าสุดระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศคว่ำบาตรอุตสาหกรรมเหล็กของอิหร่าน เพื่อกดดันให้อิหร่านยุติการพัฒนาโครงการนิวเคลียร์
นักลงทุนรอดูการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในเดือนมิ.ย. โดยที่ประชุมจะทบทวนนโยบายการผลิตน้ำมัน และจะตัดสินใจว่าจะยังคงลดการผลิตน้ำมันต่อไปหรือไม่