สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (29 พ.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกและความต้องการใช้น้ำมัน ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในวันนี้ รวมทั้งการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ซึ่งจะมีขึ้นในเดือนหน้า
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 33 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 58.81 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 66 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 69.45 ดอลลาร์/บาร์เรล
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้ายังคงเป็นปัจจัยที่สร้างแรงกดดันต่อตลาดน้ำมัน โดยรายงานล่าสุดจากหนังสือพิมพ์พีเพิลส์ เดลี ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ระบุเตือนสหรัฐว่า จีนอาจใช้แร่หายากเป็นอาวุธในการทำสงครามการค้ากับสหรัฐ
ทางด้านนายหู สีจิน บรรณาธิการหนังสือพิมพ์โกลบอลไทม์สของรัฐบาลจีน เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ @HuXijin_GT ว่า ขณะนี้รัฐบาลจีนกำลังพิจารณาที่จะใช้มาตรการจำกัดการส่งออกแร่หายากไปยังสหรัฐ และอาจใช้มาตรการตอบโต้อื่นๆ ในอนาคตด้วย ซึ่งก่อให้เกิดความกังวลว่า จีนอาจใช้แร่หายากเป็นอาวุธในการเจรจาการค้ากับสหรัฐ
ขณะนี้ จีนเป็นประเทศผู้ผลิตแร่หายากรายใหญ่ที่สุดในโลก โดยแร่ดังกล่าวเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตสมาร์ทโฟน และรถยนต์ไฟฟ้า
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ในวันนี้ เวลา 22.00 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลล์สำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะลดลง 1.4 ล้านบาร์เรลในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 24 พ.ค. ขณะเดียวกันคาดว่าสต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 800,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 225,000 บาร์เรล
นักลงทุนจับตาการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่กรุงเวียนนาในวันที่ 25-26 มิ.ย. เพื่อพิจารณานโยบายการผลิตน้ำมันในช่วงครึ่งปีหลัง หลังจากที่โอเปกและกลุ่มประเทศนอกโอเปก นำโดยรัสเซีย เห็นพ้องกันในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน จนถึงเดือนมิ.ย.นี้ เพื่อป้องกันการทรุดตัวของราคาน้ำมัน