สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบร่วงลงติดต่อกัน 4 วันทำการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากการที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และซาอุดีอาระเบียได้ออกมาแสดงความตั้งใจที่จะเดินหน้าสร้างเสถียรภาพในตลาดน้ำมันต่อไป
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 53.48 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 69 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 61.97 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้น หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวว่า เฟดกำลังจับตามองพัฒนาการทางเศรษฐกิจในขณะนี้ และจะดำเนินการในสิ่งที่ต้องทำเพื่อให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจดำเนินต่อไป นายพาวเวลยังเปิดเผยว่า เครื่องมือที่เฟดเคยใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตการณ์ ซึ่งได้แก่ การกำหนดให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ใกล้ 0% และการเข้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) มีแนวโน้มที่จะนำมาใช้อีกครั้งหนึ่ง
นักวิเคราะห์มองว่า ถ้อยแถลงของนายพาวเวลช่วยให้ตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะความต้องการน้ำมันถดถอยอันเนื่องมาจากข้อพิพาทการค้าและการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้รับปัจจัยบวกหลังจากนายคาลิด อัล-ฟาลีห์ รมว.พลังงานของซาอุดีอาระเบียกล่าวว่า ซาอุดีอาระเบียจะเดินหน้าสร้างเสถียรภาพตลาดน้ำมัน ซึ่งอาจรวมถึงการปรับลดกำลังการผลิตต่อไปหลังจากเดือนมิ.ย.
นักลงทุนจับตาการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่กรุงเวียนนาในวันที่ 25-26 มิ.ย.นี้ เพื่อพิจารณานโยบายการผลิตน้ำมันในช่วงครึ่งปีหลัง หลังจากที่โอเปกและกลุ่มประเทศนอกโอเปก นำโดยรัสเซีย เห็นพ้องกันในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน จนถึงเดือนมิ.ย.ปีนี้ เพื่อป้องกันการทรุดตัวของราคาน้ำมัน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลล์สำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะลดลง 1.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 31 พ.ค.