สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ยังคงปรับตัวลงในวันนี้ หลังจากที่วานนี้ทรุดตัวลงใกล้แตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน
ณ เวลา 22.12 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX ลดลง 17 เซนต์ หรือ 0.33% สู่ระดับ 51.51 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันยังคงถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก รวมทั้งปริมาณสต็อกน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นของสหรัฐ
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้น 6.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 849,000 บาร์เรล
ทางด้านสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
EIA ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 3.2 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 208,000 บาร์เรล
นอกจากนี้ สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 4.6 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 1.08 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันยังถูกกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน รวมทั้งการที่บริษัทผลิตน้ำมันของรัสเซียออกโรงคัดค้านกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ขยายการปรับลดกำลังการผลิตจนถึงสิ้นปีนี้
นายอิกอร์ เซชิน ประธานบริษัทรอสเนฟท์ ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตน้ำมันของรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียควรผลิตน้ำมันตามที่ต้องการ และเขาจะเรียกร้องการชดเชยจากรัฐบาล หากรัสเซียร่วมกับโอเปกในการขยายการปรับลดกำลังการผลิตจนถึงสิ้นปีนี้
ขณะเดียวกัน EIA ยังระบุว่า สหรัฐได้เพิ่มการผลิตน้ำมันสู่ระดับ 12.4 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้สหรัฐเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันมากที่สุดในโลก เทียบกับระดับ 11.11 ล้านบาร์เรล/วันของรัสเซีย และ 9.65 ล้านบาร์เรล/วันของซาอุดีอาระเบีย