สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (7 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่ลดลงในสัปดาห์นี้ ซึ่งช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับสต็อกน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐ และตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ซาอุดีอาระเบียเปิดเผยว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ใกล้บรรลุข้อตกลงขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. พุ่งขึ้น 1.40 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 53.99 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. พุ่งขึ้น 1.62 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 63.29 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดน้ำมันได้แรงหนุน หลังเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนลดลง 11 แท่นในสัปดาห์นี้ สู่ระดับ 789 แท่น ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปีที่แล้ว และ การลดลงของจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันสหรัฐในสัปดาห์นี้ ยังถือว่ามากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.
เมื่อเทียบรายปี แท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐลดลง 73 แท่น จาก 862 แท่นในช่วงสัปดาห์เดียวกันของปีที่แล้ว
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นายอัล-ฟาลีห์กล่าวว่า โอเปกกำลังใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงในการขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในเดือนนี้ แม้ว่ายังคงต้องมีการเจรจากับกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันนอกโอเปก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการทำข้อตกลงลดกำลังการผลิต
ทั้งนี้ เมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว โอเปกและกลุ่มประเทศนอกโอเปก นำโดยรัสเซีย เห็นพ้องกันที่จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1.2 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงเดือนมิ.ย.ปีนี้ เพื่อป้องกันการทรุดตัวของราคาน้ำมัน
นายอัล-ฟาลีห์กล่าวว่า การดิ่งลงของราคาน้ำมันในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่เป็นเรื่องดี โดยราคาน้ำมันที่ต่ำกว่า 60 ดอลลาร์/บาร์เรลจะไม่จูงใจให้บริษัทน้ำมันทำการลงทุนและผลิตน้ำมัน
รัฐมนตรีพลังงานของซาอุดีอาระเบีย ยังกล่าวว่า ตลาดน้ำมันยังไม่มีเสถียรภาพ โดยราคายังคงได้รับอิทธิพลจากปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของโอเปก
ทั้งนี้ โอเปกและประเทศพันธมิตรจะจัดการประชุมที่กรุงเวียนนาในวันที่ 25-26 มิ.ย.เพื่อพิจารณานโยบายการผลิตน้ำมันในช่วงครึ่งปีหลัง โดยมีแนวโน้มขยายเวลาการปรับลดการผลิตออกไปจนถึงสิ้นปีนี้
ทางด้านแหล่งข่าวระบุว่า การประชุมดังกล่าวอาจถูกเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 3-4 ก.ค.