สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน อาจทำให้ความต้องการใช้น้ำมันปรับตัวลดลงด้วย ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 58 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 51.93 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. ร่วงลง 1.07 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 60.94 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลง ท่ามกลางความวิตกกังวลที่ว่า ข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งเศรษฐกิจโลกที่ส่งสัญญาณชะลอตัวลงนั้น จะส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันปรับตัวลดลงด้วย
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้นล่าสุดนั้น ส่วนหนึ่งมาจากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) ซึ่งระบุว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค. ขยายตัวเพียง 5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 5.4%
นายเรนเนอร์ ไมเคิล เพรส ผู้อำนวยการบริหารของบริษัททอรัส เวลท์ แอดไวเซอร์ กล่าวว่า ราคาน้ำมันโลกจะดิ่งลงแตะระดับ 45 ดอลลาร์ หากสหรัฐและจีนไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้า ซึ่งจะส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจโลกอ่อนแอมากขึ้น
ทางด้านสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้ปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันในตลาดโลกปีนี้ลงจากระดับ 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ระดับ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากการค้าทั่วโลกมีการขยายตัวที่อ่อนแอที่สุดในรอบ 10 ปี
นักลงทุนจับตาการกำหนดวันประชุมที่แน่นอนของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศพันธมิตร หลังจากนายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รมว.พลังงานรัสเซีย ได้แสดงความต้องการที่จะเลื่อนการประชุมที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ออกไปเป็นวันที่ 3-4 ก.ค. จากเดิมวันที่ 25-26 มิ.ย. เพื่อไม่ให้ใกล้กับวันประชุมสุดยอดของกลุ่ม G20 ในวันที่ 28-29 มิ.ย.ที่ญี่ปุ่น
อย่างไรก็ดี นายบิจาน ซานกาเนห์ รมว.น้ำมันอิหร่าน ต้องการให้การประชุมเป็นไปตามกำหนดเดิมในวันที่ 25-26 มิ.ย.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ในวันพรุ่งนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย