สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (25 มิ.ย.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่า ข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน ขณะที่นักลงทุนจับตาสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่าน รวมทั้งรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 7 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 57.83 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 19 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 65.05 ดอลลาร์/บาร์เรล
ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวนเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่า อุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกอาจจะได้รับแรงกดดันจากข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ขณะที่ผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 121.5 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2560 อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ระหว่างอิหร่านและสหรัฐอย่างใกล้ชิด หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามในคำสั่งคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่ พร้อมกับขู่ว่าสหรัฐจะทำการโจมตีอิหร่านเพื่อตอบโต้ หากอิหร่านทำการโจมตีสิ่งใดที่เกี่ยวข้องกับอเมริกา ขณะที่อิหร่านระบุว่า การที่สหรัฐออกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่ จะปิดกั้นโอกาสในการใช้แนวทางทางการทูต
ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในคืนนี้เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลล์สำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 2.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 21 มิ.ย.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูผลการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ในวันที่ 1 ก.ค. ขณะที่ประเทศนอกกลุ่มโอเปก นำโดยรัสเซีย จะเข้าร่วมการประชุมในวันที่ 2 ก.ค. เพื่อหารือการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน โดยคาดว่าที่ประชุมจะสนับสนุนการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตจนถึงสิ้นปีนี้