สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (2 ก.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า เศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอลงอันเนื่องมาจากการชะลอตัวของภาคการผลิตนั้น จะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน โดยความวิตกกังวลในเรื่องดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานข่าวที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศพันธมิตร ได้บรรลุข้อตกลงขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปอีก 9 เดือน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ร่วงลง 2.84 ดอลลาร์ หรือ 4.8% ปิดที่ 56.25 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. ดิ่งลง 2.66 ดอลลาร์ หรือ 4.1% ปิดที่ 62.40 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบร่วงลง ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก หลังจากผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐลดลงสู่ระดับ 51.7 ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 52.1 ในเดือนพ.ค.
ขณะที่เอชเอส มาร์กิต ระบุว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของยูโรโซน ปรับตัวลงสู่ระดับ 47.6 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน จากระดับ 47.7 ในเดือนพ.ค. โดยดัชนี PMI ยังคงปรับตัวต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคการผลิตของยูโรโซนยังคงเผชิญภาวะหดตัวในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการหดตัวเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน
นักวิเคราะห์จากบริษัทเซเวนส์ รีพอร์ท รีเสิร์ช กล่าวว่า ภาคการผลิตที่ชะลอตัวลงทั่วโลกส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลว่า ภาวะเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอลงเช่นนี้อาจจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน และข้อมูลเหล่านี้ยังได้บดบังปัจจัยบวกจากข่าวโอเปกและประเทศพันธมิตรที่สามารถตกลงกันได้ในประเด็นการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน
ทั้งนี้ กลุ่มประเทศโอเปกสามารถบรรลุข้อตกลงกับรัสเซีย และผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกอีก 9 ประเทศ ในการประชุมเมื่อวานนี้ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ในการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปอีก 9 เดือน จนถึงสิ้นเดือนมี.ค.2563 จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในเดือนมิ.ย.ปีนี้ โดยจะปรับลดกำลังการผลิตในอัตราเดิมที่ระดับ 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในคืนนี้เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลล์สำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 3.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 28 มิ.ย.