สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (11 ก.ค.) หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ได้ปรับลดคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันดิบในปีหน้า อย่างไรก็ดี สัญญาน้ำมันดิบได้ปัจจัยหนุนในระหว่างวัน จากข่าวพายุที่เตรียมพัดถล่มอ่าวเม็กซิโก ซึ่งส่งผลให้มีการอพยพคนงานออกจากแท่นขุดเจาะน้ำมันในบริเวณดังกล่าว
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 23 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 60.20 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 49 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 66.52 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปิดตลาดในแดนลบ หลังจากโอเปกออกรายงานภาวะตลาดน้ำมันประจำเดือนก.ค. ระบุว่า อุปสงค์น้ำมันจะลดลงในปีหน้า ขณะที่สหรัฐจะผลิตน้ำมันมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เกิดภาวะน้ำมันล้นตลาด แม้ว่าโอเปกและพันธมิตรปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันก็ตาม
ทั้งนี้ โอเปกคาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันโอเปกในปีหน้าจะอยู่ที่ระดับ 29.27 ล้านบาร์เรล/วัน โดยลดลง 1.34 ล้านบาร์เรล/วันจากระดับในปีนี้
รายงานของโอเปกยังเปิดเผยว่า ผลผลิตน้ำมันในเดือนมิ.ย.ลดลง 68,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 29.83 ล้านบาร์เรล/วัน แต่ยังอยู่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในปีหน้า ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดน้ำมันจะเผชิญกับภาวะน้ำมันล้นตลาดมากกว่า 500,000 บาร์เรล/วันในปีหน้า หากโอเปกยังคงผลิตน้ำมันในระดับเดียวกับในเดือนมิ.ย. และปัจจัยอื่นๆไม่มีการเปลี่ยนแปลง
อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันได้แรงหนุนจากพายุที่เตรียมพัดถล่มอ่าวเม็กซิโก ส่งผลให้มีการอพยพคนงานออกจากแท่นขุดเจาะน้ำมันในบริเวณดังกล่าว
นอกจากนี้ รายงานข่าวที่ว่า กองเรือของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน (IRGC) ได้พยายามยึดเรือบรรทุกน้ำมันของอังกฤษในอ่าวเปอร์เซีย ก็ได้ช่วยจำกัดช่วงขาลงของราคาน้ำมัน