สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ก.ค.) ขานรับรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 6 อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 14 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 56.02 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 21 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 63.39 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 6 โดยลดลง 10.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 19 ก.ค. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 4.4 ล้านบาร์เรล
ทางด้านสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 11 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวได้สกัดแรงบวกของราคาน้ำมัน หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ลงสู่ระดับ 3.2% จากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 3.3% และคาดว่าเศรษฐกิจโลกในปีหน้าจะขยายตัว 3.5% ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 3.6%
นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ในตะวันออกลางอย่างใกล้ชิด หลังจากเกิดเหตุการณ์อิหร่านยึดเรือบรรทุกน้ำมันของอังกฤษในช่องแคบฮอร์มุซ เพื่อตอบโต้อังกฤษที่ยึดเรือบรรทุกน้ำมันของอิหร่านเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ โดรนของสหรัฐที่ออกปฏิบัติการบริเวณช่องแคบฮอร์มุซได้ถูกระบบป้องการภัยทางอากาศของอิหร่านยิงตกเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเกือบจะเป็นเหตุให้สหรัฐตอบโต้ทางทหารต่ออิหร่าน