สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (31 ก.ค.) ขานรับสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ และยังลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 7 นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานี้ตามคาด
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 53 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 58.58 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 45 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 65.17 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 5 หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 7 โดยลดลง 8.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 26 ก.ค. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 3.9 ล้านบาร์เรล
ทางด้านสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 6 ล้านบาร์เรลในรอบสัปดาห์ดังกล่าว
EIA ยังระบุว่า สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 900,000 บาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 400,000 บาร์เรล
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับปัจจัยหนุนหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 2.00-2.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.2551