สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (2 ส.ค.) โดยราคาน้ำมันฟื้นตัวขึ้น หลังจากร่วงลงอย่างหนักในวันพฤหัสบดีจากความวิตกเกี่ยวกับสงครามการค้าสหรัฐ-จีน และผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ามัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 1.71 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 55.66 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.39 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 61.89 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดน้ำมันฟื้นตัวขึ้นหลังจากร่วงลงอย่างหนักในวันพฤหัสบดี ซึ่งสัญญาน้ำมันดิบ WTI และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ดิ่งลงเกือบ 8% และ 7% ตามลำดับ ขณะที่ความวิตกครั้งใหม่เกี่ยวกับการค้าโลกได้บดบังแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจและความต้องการพลังงาน หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่เรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนครั้งใหม่ 10% ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.
ตลาดยังได้แรงหนุนจากความเสี่ยงในการขนส่งน้ำมันผ่านช่องแคบฮอร์มูซ ท่ามกลางความตึงเครียดอย่างต่อเนื่องระหว่างอิหร่านและชาติตะวันตกในตะวันออกกลาง
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยในวันพุธว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 7 โดยลดลง 8.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 26 ก.ค. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 3.9 ล้านบาร์เรล
ทางด้านสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ ก็เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 6 ล้านบาร์เรลในรอบสัปดาห์ดังกล่าว