สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวขึ้นในวันนี้ จากการคาดการณ์ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) อาจเพิ่มการปรับลดกำลังการผลิตเพื่อพยุงราคาน้ำมันในระยะนี้
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการที่บริษัทน้ำมันสหรัฐลดจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันติดต่อกันสัปดาห์ที่ 6
ณ เวลา 23.26 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 22 เซนต์ หรือ 0.40% สู่ระดับ 54.72 ดอลลาร์/บาร์เรล
สื่อรายงานว่า ซาอุดีอาระเบียกำลังหารือกับประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นเกี่ยวกับราคาน้ำมันที่ดิ่งลงในระยะนี้ ส่งผลให้มีการคาดการณ์ว่าโอเปกอาจเพิ่มการปรับลดกำลังการผลิตเพื่อพยุงราคาน้ำมัน
เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนลดลง 6 แท่นในสัปดาห์นี้ สู่ระดับ 764 แท่น ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปีที่แล้ว
ทั้งนี้ บริษัทน้ำมันลดจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันติดต่อกันสัปดาห์ที่ 6 ซึ่งเป็นการลดจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.
อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันยังคงถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งอาจกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันในตลาด
ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนได้รุนแรงขึ้น หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุว่า เขาจะเก็บภาษีนำเข้า 10% จากสินค้าจีนวงเงิน 3 แสนล้านดอลลาร์ในวันที่ 1 ก.ย.นี้ และกระทรวงการคลังสหรัฐได้ระบุอย่างเป็นทางการว่า จีนเป็นประเทศที่ปั่นค่าเงิน ขณะที่จีนก็ได้ตอบโต้ด้วยการปล่อยให้หยวนอ่อนค่าลงต่ำกว่าระดับ 7 หยวนต่อดอลลาร์ แตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปี และรัฐบาลจีนยังได้สั่งให้บริษัทของรัฐระงับการนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐ
ธนาคารกลางจีนกำหนดอัตราค่ากลางของหยวนที่ระดับ 7.0211 หยวนต่อดอลลาร์ในวันนี้ โดยอ่อนค่าลงจากวันศุกร์ และเป็นระดับต่ำกว่า 7 หยวนต่อดอลลาร์เป็นวันทำการที่ 3
ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า สหรัฐกำลังเจรจาการค้ากับจีน แต่สหรัฐยังไม่พร้อมที่จะทำข้อตกลงกับจีน
นักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะยังคงยืดเยื้อต่อไป และไม่มีแนวโน้มที่ทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีหน้า
นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์ยังได้ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐประจำไตรมาส 4 สู่ระดับ 1.8% จากเดิมที่ระดับ 2.0% โดยระบุถึงผลกระทบจากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่มากกว่าคาด
ทางด้านแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ ออกรายงานเตือนว่า จากข้อมูลล่าสุด ทางธนาคารเชื่อว่ามีโอกาสมากกว่า 30% ที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐปีหน้า