สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ (15 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย รวมทั้งผลกระทบของสงครามการค้า หลังจากจีนขู่ว่าจะตอบโต้สหรัฐที่ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 76 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 54.47 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. ร่วงลง 1.25 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 58.23 ดอลลาร์/บาร์เรล
ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังคงได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค.ขยายตัว 4.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบ 17 ปี ขณะที่สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีเปิดเผยว่า GDP ไตรมาส 2 หดตัวลง 0.1% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2561
นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลก โดยล่าสุด กระทรวงการคลังของจีนแถลงเมื่อวานนี้ว่า จีนจะใช้มาตรการตอบโต้ที่จำเป็นต่อการที่สหรัฐจะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนอีก 10% วงเงิน 3 แสนล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ดี กระทรวงการต่างประเทศจีนได้ออกแถลงการณ์ในเวลาต่อมาว่า จีนหวังว่าจะสามารถพบสหรัฐครึ่งทางในประเด็นการค้า และดำเนินการตามข้อตกลงที่ผู้นำของทั้งสองฝ่ายบรรลุในการประชุมที่นครโอซากา ขณะเดียวกันก็พยายามมองหาแนวทางที่ยอมรับได้ร่วมกัน ผ่านทางการหารือกันบนพื้นฐานของความเท่าเทียมกัน และการเคารพซึ่งกันและกัน