สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 ส.ค.) เนื่องจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ฟื้นตัวขึ้น ได้ช่วยคลายความวิตกของนักลงทุนเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 40 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 54.87 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 41 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 58.64 ดอลลาร์/บาร์เรล
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นในเดือนก.ค. ขณะที่ยอดค้าปลีกและบริการด้านอาหาร เพิ่มขึ้น 0.7% สู่ระดับ 5.235 แสนล้านดอลลาร์
ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐทั้งอายุ 10 ปีและ 30 ปีปรับตัวขึ้น หลังจากร่วงลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งได้ช่วยคลายความวิตกของนักลงทุนเกี่ยวกับแนวโน้มที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.56% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 1.49%
อย่างไรก็ตาม การปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันได้ถูกสกัดกั้น หลังกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปีนี้ ลดลง 40,000 บาร์เรลต่อวัน สู่ 1.1 ล้านบาร์เรลเมื่อเทียบรายปี
ส่วนความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปี 2563 คาดว่าจะขยายตัว 1.14 ล้านบาร์เรลต่อวันซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์เมื่อเดือนที่แล้ว
โอเปกระบุในรายงานตลาดน้ำมันรายเดือนว่า การคาดการณ์ดังกล่าวขึ้นอยู่กับความเสี่ยงขาลงที่เกิดจากความไม่แน่นอนในการพัฒนาเศรษฐกิจโลก