สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวลงในวันนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก แม้มีการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ยังคงปรับลดกำลังการผลิต
ณ เวลา 23.42 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนต.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX ลดลง 37 เซนต์ หรือ 0.66% สู่ระดับ 55.31 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 2.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 16 ส.ค. ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวลงเพียง 1.9 ล้านบาร์เรล
อย่างไรก็ดี รายงานของ EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 200,000 บาร์เรล
ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและผลกระทบจากสงครามการค้าจะส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันลดน้อยลง
ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 10 ปีในเดือนส.ค. ขณะที่สงครามการค้ากำลังส่งผลกระทบทำให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลง
นอกจากนี้ ดัชนี PMI ภาคการผลิตปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคการผลิตของสหรัฐอยู่ในภาวะหดตัว ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ย.2552
มาร์กิตเปิดเผยว่า คำสั่งซื้อแตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปี ขณะที่ยอดขายจากการส่งออกร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2552
นอกจากนี้ ผู้ผลิตยังคงลดจำนวนสินค้าในสต็อก ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์ในอนาคต
นายทิม มัวร์ นักวิเคราะห์ของมาร์กิต ระบุว่า บริษัทในภาคการผลิตยังคงได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก และตัวเลขในเดือนส.ค.เป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลงในไตรมาส 3
นักลงทุนจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมวันพรุ่งนี้ เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 21.00 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า นายพาวเวลจะใช้เวทีการประชุมดังกล่าว ส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.