สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 ส.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลงมากที่สุดในรอบ 5 สัปดาห์ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของอุปสงค์น้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 85 เซนต์ หรือ 1.6% ปิดที่ 55.78 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 98 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 60.49 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปิดในแดนบวกหลังจาก EIA รายงานเมื่อคืนนี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงถึง 10 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 23 ส.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดในรอบ 5 สัปดาห์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 2.1 ล้านบาร์เรล
รายงานของ EIA ยังระบุว่า สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 2.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 388,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงน้ำมันฮีทติ้งออยล์และดีเซล เพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล
ทางด้านสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐ ลดลง 11.1 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 23 ส.ค.
ทั้งนี้ สต็อกน้ำมันดิบที่ลดลงอย่างมากของสหรัฐนั้น ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของอุปสงค์น้ำมัน อันเนื่องมาจากผลกระทบของสงครามการค้าและภาวะเศรษฐกิจซบเซา และเป็นปัจจัยหนุนสัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดตลาดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2
สำหรับปัจจัยบวกด้านอื่นๆนั้น คณะกรรมการตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต (JMMC) ของกลุ่มโอเปกและประเทศผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกซึ่งรวมถึงรัสเซีย รายงานว่า อัตราส่วนการปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตในหมู่สมาชิกโอเปกและผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกในเดือนก.ค.อยู่ที่ระดับ 159% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบปี