สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (10 ก.ย.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์สั่งปลดนายจอห์น โบลตัน ออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติ โดยตลาดมองว่า การปลดนายโบลตันซึ่งเป็นที่ปรึกษาสายเหยี่ยวและมีท่าทีแข็งกร้าวในประเด็นอิหร่านนั้น อาจทำให้ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่านลดน้อยลง ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 45 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 57.40 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 21 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 62.38 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปิดตลาดในแดนลบ หลังจากปธน.ทรัมป์ประกาศปลดนายโบลตันพ้นตำแหน่งที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติ เนื่องจากมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน
ปธน.ทรัมป์ได้ทวีตข้อความว่า "ผมได้แจ้งคุณจอห์น โบลตันทราบแล้วว่าเขาไม่ต้องมาทำงานที่ทำเนียบขาวอีกต่อไป โดยที่ผ่านมา ผมไม่เห็นด้วยอย่างมากต่อข้อเสนอมากมายของเขา เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่คนอื่นๆในทำเนียบขาว ดังนั้นผมจึงขอให้คุณจอห์นลาออก และเขาได้ยื่นจดหมายลาออกในเช้าวันนี้ ผมขอขอบคุณจอห์นสำหรับการทำงานของเขา และผมจะประกาศชื่อผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติคนใหม่ในสัปดาห์หน้า"
นักวิเคราะห์ระบุว่า นายโบลตันถือเป็นที่ปรึกษาสายเหยี่ยว และการที่เขาถูกปลดออกจากตำแหน่งทำให้สหรัฐมีแนวโน้มลดลงในการโจมตีอิหร่าน ซึ่งจะลดความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวลง
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ เวลาประมาณ 21.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะลดลง 3.6 ล้านบาร์เรลในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 6 ก.ย. ซึ่งจะเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันสัปดาห์ที่ 4
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูรายงานด้านพลังงานประจำเดือนของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้